กาญจนบุรี ย้อนรอยสงคราม
สถานที่ 1.สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก 2.สะพานข้ามแม่น้ำแคว 3.ร้านอาหารคีรีมันตรา 4.พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด
ออกเดินเพื่อทางย้อนรอยประวัติศาสตร์ สำรวจและเรียนรู้ร่องรอย ของสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ยังคงฝากไว้ซึ่งบาดแผลของสงคราม กับสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญครับ Wheelwego วันนี้เราอยู่กันที่ จังหวัดกาญจนบุรีครับ จุดเริ่มต้นในการเดินทางย้อนรอยประวัติศาสตร์ ของเราในวันนี้ เราอยู่กันที่
สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก
สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก หรือ “สุสานทหารสหประชาชาติ” หรือที่ชาวจังหวัดกาญจนบุรีทั่วไปเรียกว่า “ป่าช้าอังกฤษ สถานที่ที่เป็นเสมือนอนุสรณ์ ที่แสดงถึงร่องรอยส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์โลกที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลงเมื่อ พ.ศ. 2488 ฝ่ายสัมพันธมิตรผู้ชนะสงครามได้ดำเนินการจัดสร้างอนุสรณ์สถานแด่ผู้เสียชีวิตขึ้นหลายแห่งในทวีปเอเชียซึ่งเป็นสมรภูมิสำคัญ มีอนุสรณ์สถานตั้งอยู่ในหลายประเทศ ทั้ง พม่าอินเดีย บังกลาเทศ รวมถึงในประเทศไทย
สถานที่แห่งนี้ เป็นที่ฝังไว้ซึ่งร่างผู้เสียชีวิตของทหารฝ่ายสัมพันธมิตร รวม 6,982 ร่าง ที่เสียชีวิตในระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะ
บรรยากาศในสุสาน มีความร่มรื่นให้ความรู้สึกที่เงียบ สงบ และได้รับการตกแต่งไว้อย่างเป็นระเบียบสวยงาม เหนือหลุมฝังศพทุกหลุมมีแผ่นทองเหลืองจารึก ชื่อ อายุ และประเทศของผู้เสียชีวิต รวมถึงคำไว้อาลัยแด่ผู้สียชีวิต
สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของของจัวหวัดกาญจนบุรี ด้วยเรื่องราวของการก่อสร้างที่เบื่องหลังต้องแลกมาด้วยชีวิตอย่างมากมายซึ่งเป็นผลสะท้อนของสงครามที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สะพานข้ามแม่น้ำแควถูกสร้างขึ้นในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟของกองทัพญี่ปุ่นที่จะใช้เดินทัพผ่านประเทศไทยเข้าสู่ประเทศพม่า สร้างเป็นสะพานเหล็กถาวรโดยนำเหล็กจากมะลายูมาประกอบกัน วางรางโดยเชลยศึกชาวอังกฤษ สะพานมีความยาวทั้งหมด 300 เมตร
ข้ามพาดผ่านแม่น้ำแคว ด้วยประวัติที่โหดร้ายของสภาพพื้นที่ในการก่อสร้างซึ่งในสมัยนั้น มีความลำบากอย่างมากจึงทำให้มีผู้เสียชีวิตในจำนวนมากระหว่างการก่อสร้าง สะพานแห่งนี้จึงมีเป็นส่วนหนึ่งของ เส้นทางรถไฟสายมรณะ
ในปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ เป็นจุดท่องเที่ยวที่นิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมากด้วยเรื่องราวของประวัติศาสตร์ ที่มีความน่าสนใจรวมถึงความงดงามของทัศนีย์ภาพโดยรอบของสะพานแห่งนี้ที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาที่มีความสวยงาม
ในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สำหรับผู้พิการที่นี่ได้จัดให้มีทางลาดครับ สำหรับการขึ้นไปเพื่อชมวิวทิวทัศน์บริเวณตัวสะพาน
ร้านอาหารคีรีมันตรา จากสะพานข้ามแม่น้ำแควเราเดินทางมุ่งเข้าสู่ถนนเส้นทางอำเภอไทรโยค ประมาณ 12 กิโลเมตรกับอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากแนะนำครับ ร้านอาหารคีรีมันตรา สำหรับร้านอาหาร คีรีมันตรา ซึ่งแปลได้ว่า เสน่ห์แห่งขุนเขา ที่นี่เป็นร้านอาหาร เหมาะสำหรับการผักผ่อนของคนทุกวัยในครอบครัว ด้วยรูปแบบร้าน ที่เปิดโล่ง ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย บริการอาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงด้วยสภาพแวดล้อมของที่ตั้ง ที่โอบล้อมไปด้วย ภูเขาบ่อน้ำขนาดใหญ่และมีลานทางเดิน ที่เราสามารถเดินเล่น ถ่ายรูป เช็คอิน หรือจะขี่จักรยานชมความงามของสถานที่แห่งนี้ ท่ามกลางบรรยากาศและอากาศที่ดี ก็ถือเป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างความผ่อนคลายได้เป็นอย่างดีครับ
สำหรับสายคอกาแฟ ที่ชอบลิ้มลองเมล็ดกาแฟ จากแหล่ง ต่าง ๆ ที่นี่ก็มีร้านกาแฟรวมถึงโรงคั่วของตัวเอง มีเมล็ดกาแฟหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งในและต่างประเทศ ให้เลือกชิม ตามความชอบของแต่ละบุคคล รับประกันครับว่าถูกใจแน่นอน
เรื่องของการจัดการในเรื่องของสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ให้เอื้อต่อผู้พิการและผู้สูงอายุครับ เพราะที่นี่ได้ถูกออกแบบในทุก ๆ ส่วนครับให้สามารถเข้าถึงได้ในทุกพื้นที่ ตั้งแต่ลานจอดรถ ทางลาดในพื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงส่วนที่สำคัญนั่นคือเรื่องของห้องน้ำ สำหรับผู้พิการ ที่นี่ ทำได้ดีเยี่ยมเชียวครับ
พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด หรืออนุสรณ์สถานช่องเขาขาด สร้างขึ้นเพื่ออุทิศและเป็นอนุสรณ์ให้กับเชลยศึกที่เสียชีวิตในระหว่างการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลประเทศออสเตรเลียในการก่อสร้าง รวมถึงการจัดการบำรุงรักษา ซึ่งที่นี่ไม่มีค่าบริการครับโดยภายในอนุสรณ์สถานช่องเขาขาดแห่งนี้เป็นที่รวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ บาดแผลของสงครามที่เกิดขึ้น นำเสนอผ่านวีดีทัศน์รวมถึงจัดแสดงอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์
ณ จุดจุดนี้ เราสามารถ มองเห็นวิวทิวทัศน์ของบริเวณช่องเขาขาด
ได้อย่างสวยงามครับ ซึ่งจากจุดจุดนี้ เราสามารถเดินตามเส้นทางธรรมชาติเพื่อไปยังอนุสรณ์สถานช่องเขาขาด ซึ่งอยู่ห่างออกไป ประมาณ 500 เมตร ซึ่งเส้นทางนี้ ไม่สะดวกครับ สำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ
สำหรับที่นี่คงต้องยกนิ้วให้เลยจริง ๆ ครับ ว่าดีเยี่ยมมาก ๆ ในเรื่องของการจัดการ สภาพแวดล้อมต่าง ๆ ให้กลุ่มคนพิการและผู้สูงอายุ เข้าถึงได้ในทุกพื้นที่อย่างสะดวกไม่ว่าาจะเป็นเรื่องของทางลาดต่าง ๆ ห้องน้ำ สำหรับคนพิการ รวมถึงรถกอล์ฟ ที่บริการรับส่ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้นี่แหละครับที่ช่วยสะท้อนได้เป็นอย่างดีถึงการเอาใจใส่ต่อคนกลุ่มต่าง ๆ ที่มีข้อจำกัด ที่อยู่ร่วมกันในสังคมครับ
หนึ่งวันในการเดินทาง เพื่อเรียนรู้ ย้อนรอยประวัติศาสตร์ที่สะท้อนให้เห็นถึงบาดแผลของสงครามที่เกิดขึ้น เป็นอีกหนึ่งทริปครับ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว ของสถานที่ที่งดงามและมีคุณค่า และที่สำคัญครับในแต่ล่ะพื้นที่นั้น เรื่องของการจัดการสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อคนพิการและผู้สูงอายุ ถือว่าทำได้ดีมากครับ