
เส้นทางท่องเที่ยว เชียงรายสวรรค์บนพื้นดิน
สถานที่ 1.วัดพระธาตุแสงแก้วโพธิญาณ 2.วัดร่องขุ่น 3.วัดร่องเสื้อเต้น
จังหวัดเชียงรายเป็นจังหวัดที่มีความน่าสนใจในเรื่องท่องเที่ยวเป็นอย่างมากครับ ด้วยองค์ประกอบที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสภาพอากาศที่มีความเย็นสบาย วิวทิวทัศน์ของภูเขาสูงที่โอบล้อม และที่สำคัญครับที่นี้ ยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยศิลปิน ที่ร่วมรังสรรค์ผลงาน ทางด้านศิลปะถ่ายทอดผ่านงานสถาปัตยกรรมของวัดวาอาราม ต่าง ๆ ในรูปแบบที่มีเอกลักษณ์ ที่ไม่เหมือนใคร จนเป็นที่ชื่นชมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องแวะมาเยี่ยมชม ว่าแล้วเราเดินทางกันครับ กับวัดแรกของเรา
วัดพระธาตุแสงแก้วโพธิญาณ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า วัดแสงแก้วโพธิญาณ ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงรายด้วยความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมที่มีความงดงามและแปลกตา ในรูปแบบพุทธศิลป์ ซึ่งออกแบบบโดยพระครู บาอริยชาติ โดยการออกแบบนั้นเป็นการผสมผสานไว้ซึ่งรูปแบบศิลปะที่มีความหลากหลาย ทั้งศิลปะล้านนา ศิลปะไทยใหญ่ และศิลปะแบบพม่า ซึ่งสะท้อนสอดแทรกหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ไว้อย่างน่าสนใจ โดยบริเวณรอบ ๆ วัด มีการจัดประดับตบแต่งไปด้วยงานปั้น พุทธศิลป์ ขององค์เทพ ต่าง ๆ และปีนักกษัตริย์ ขนาดใหญ่จัดวางในรูปแบบที่มีความน่าสนใจ
และในส่วนที่สำคัญ นั้น คือ นั้นคือซุ้มประตูขนาดใหญ่ ที่มีความงดงามของสถาปัตยกรรมในรูปแบบล้านนาที่มีความอลังการ โดยด้านหน้ามีรูปปั้นพระอุปคุต และพระสังกัจจายน์ ตั้งขนาบสองข้างซุ้มประตู และเมื่อผ่านซุ้มประตูจะพบกับ รูปปั้นท่านท้าวจตุมหาราชทั้งสี่ ประกอบไปด้วย ท้าวเวสสุวรรณ ท้าวธตรฐ ท้าววิรูปักษ์ ท้าววิรุฬหก ซึ่งความพิเศษของรูปปั้นนั้น คือรายละเอียดขององค์ประกอบของงานปั้น ไม่ว่าจะเป็น มือที่ถือทั้งเหล้าและบุหรี่ การทำมือเพื่อบอกรัก หรือแม้กระทั้งส่วนที่เท้าที่มีทั้งรองเท้าแตะและ รองเท้าผ้าใบคอนเวิร์ส ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นรายละเอียดที่ศิลปินถ่ายทอดเพื่อทอดแทรกปริศนาธรรมผสมผสานความเชื่อดั้งเดิมเชื่อมกับเรื่องวัตถุนิยมของยุคสมัยได้อย่างลงตัว
และในส่วนที่สำคัญครับพระอุโบสถวิหารหลวงลายคำ ที่มีความงดงามด้วยลายละเอียดที่ปราณีตในแบบศิลปะล้านนา ภายในวิหารประดิษฐาน “พระแสงแก้วโพธิญาณ” พระพุทธรูปศิลปะเชียงแสน ทรงเครื่องล้านนาที่มีพุทธลักษณ์งดงาม ภายในประดับตบแต่งด้วยภาพลงรักปิดทองเป็นภาพพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ที่มีความงดงาม
การเที่ยวชมความงดงามของวัดแห่งนี้ สามารถเที่ยวชมได้อย่างสะดวกครับ โดยทางวัดได้จัดให้มีทางลาด รวมถึงห้องน้ำสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุให้บริการ หากแต่การเข้าถึงบริเวณภายในพระอุโบสถ อาจจะมีข้อจำกัดอยู่บ้างเพราะทางขึ้นเป็นขั้นบันไดครับ
วัดร่องขุ่น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ของจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่สักครั้งต้องมีโอกาสมาชื่นชมกับความงดงาม ที่มีความอลังการในงานออกแบบ ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดที่งดงาม และอ่อนช้อยที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบและก่อสร้างโดยศิลปินระดับโลก อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
ด้วยความงดงามของพระอุโบสถที่มีสีขาวบริสุทธิ์ซึ่งได้กลายเป็นเอกลักษณ์เป็นที่จดจำของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติซึ่งพากันเรียกวัดร่องขุ่นว่าวัดขาว (Thailand White Temple) ซึ่งบริเวณด้านหน้ามีบึงน้ำขนาดใหญ่ที่ช่วยสะท้อนขับความงดงามของพระอุโบสถ ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น บริเวณทางเข้า ประดับประดาไปด้วย งานสถาปัตยกรรมปูนปั้นที่งดงาม สะท้อนสื่อที่สอดแทรกเรื่องราวของปรัชญาทางพุทธศาสนา ได้อย่างลงตัว
สีขาว คือพระบริสุทธิคุณของพระพุทธเจ้า
สะพาน หมายถึงการเดินข้ามจากวัฏสงสารสู่พุทธภูมิ
เขี้ยว หรือ ปากพญามาร หมายถึง กิเลสในใจ
สันของสะพาน หมายถึงมีอสูรรวมกัน 16 ตน ข้างละ 8 ตน 2 ข้าง รวมกันแทนอุปกิเลส 16
กึ่งกลางของสะพาน หมายถึง เขาพระสุเมรุ
ดอกบัวทิพย์ หมายถึง มี 4 ดอกใหญ่ตรงทางขึ้นด้านข้างอุโบสถแทนซุ้มพระอริยเจ้า 4 พระองค์ คือ
พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์
บันไดทางขึ้น มี 3 ขั้นแทน หมายถึง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ซึ่งในจุดนี้ครับสำหรับผู้ที่ใช้รถเข็นสามารถเข็นขึ้นได้อย่างสะดวกครับ หากแต่ต้องมีผู้ช่วยเหลือเพราะด้วยทางค่อนข้างชัน แต่สามารถเข้าถึงได้ และทางลงได้จัดให้มีบริเวณด้านหลังพระอุโบสถ ครับ
นอกจากความงดงามของพระอุโบสถ แล้ว ภายในบริเวณวัด ยังมีจุดที่น่าสนใจอักหลายจุดให้ได้เยี่ยมแวะชม ไม่ว่าจะเป็นหอพระพิฆเนศ ซึ่งเป็นที่รวบรวมเก็บผลงานพระพิฆเนศ ของอาจาร์ยเฉลิมชัย ไว้อย่างมากมาย หรือห้องน้ำ เรือนไทยหลังงาม สีทองอร่าม ที่มีการนำจิตรกรรมไทยมาสร้างสรรค์และทำการตกแต่ง ทั้งบริเวณประตู อ่างล้างหน้า เรียกได้ว่าเป็นห้องน้ำที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกแห่งหนึ่ง โดยบริเวณรอบ ๆ วัดได้จัดตบแต่ง ไปด้วยงานประติมากรรม ในรูปแบบต่าง ๆ ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยความตั้งใจ ของท่านอาจาร์ยเฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เพื่อเป็นมรดกของแผ่นดิน และธำรงค์ไว้ซึ่งพุทธศาสนาที่งดงามครับ
ในเรื่องของการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ ที่นี้ทำได้ดีมาก ๆ ครับ ไม่ว่าทางลาด ในการเข้าถึงพื้นที่ต่าง ๆ ห้องน้ำ และที่จอดรถ สำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุที่นี้มีให้บริการอย่างครบครันครับ
วัดร่องเสือเต้น ตั้งอยู่ที่ ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีความน่าสนใจ และเป็นวัดที่ไม่อยากให้พลาดครับในการเที่ยวเมืองเชียงราย เพราะในเรื่องของสถาปัตยกรรมที่มีความงดงาม ละเอียด ปราณีตที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ในการใช้สีน้ำเงินตัดกับสีทอง ซึ่งเป็นผลงานการรังสรรค์ ของนายพุทธา กาบแก้ว หรือ สล่านก ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ซึ่งเคยเป็นลูกศิษย์ของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
จากบริเวณด้านหน้าวัดมีซุ้มประตูที่มีความงดงามและยิ่งใหญ่ ด้วยงานปั้นพญานาคท้าวมุจลินทร์ และปู่ศรีสุทโธ ด้วยลายละเอียดที่อ่อนช้อย กับสีสันที่ถูกรังสรรค์อย่างปราณีต ผ่านซุ้มประตูเข้ามาจะพบกับวงเวียน ที่มีสถาปัตยกรรมพระอุปคุตที่ตั้งอยู่กลางละออกน้ำพุ ที่รายล้อมด้วยงานปั้นรูปเหล่าเทพเทวดา ที่มีความงดงาม ด้านข้างเป็นที่ตั้งของงานปฏิกรรมรูปพระพุทธเจ้ากับเหล่าอัครสาวก
และในส่วนที่น่าสนใจและถือว่าเป็นไฮไลท์ของวัดแห่งนี้ นั้นคือพระอุโบสถครับ ซึ่งพระอุโบสถนั้นถูกสร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบไทยประยุกต์ ที่มีรายละเอียด และลวดลายปูนปั้นที่ มีความงดงาม พริ้วไหว ด้านหน้า ทางขึ้นมีรูปปั้นพญานาคขนาดใหญ่ ตั้งตะหง่าน อย่างน่าเกรงขาม บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถ ที่นี้ได้จัดให้มีทางลาด ซึ่งสะดวกมาก ๆ สำหรับคนที่มีข้อจำกัดแบบผม สามารถเข้าสู่ภายในพระอุโบสถ ได้อย่างสะดวกครับ
โดยภายในวิหารเป็นที่ตั้งของพระประธานสีขาวที่มีความงดงาม “พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ” มีความ สูง 6.50 เมตร หน้าตักกว้าง 5 เมตร โดยมีพระรอดลำพูน จำนวน 88,000 องค์ และแก้วแหวนเงินทองหลายสิ่งถูกฝังอยู่ ใต้พระพุทธรูป รวมทั้งบริเวณพระเศียรได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก รวมทั้งยังได้รับพระราชทานนามพระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ ที่หมายความว่า “พระพุทธเจ้าทรงเป็นมงคล เจ้าในความเป็นราชา เป็นที่พึ่งในสามโลก”
โดยรอบมีผลงานจิตรกรรมฝาผนังที่สะท้อนเนื้อหาเรื่องราวพุทธประวัติ ที่มีรายละเอียดที่งดงาม โดยการใช้สีน้ำเงินตัดกับสีทอง ช่วยขับภาพความงามของภายในวิหารแห่งนี้ ดูมีเอกลักษณ์ ในงานพุทธศิลป์ ที่ไม่เหมือนใครครับ
และบริเวณด้านหลังวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสีขาวปางห้ามญาติองค์ใหญ่ และ “พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์” มีความสูง 20 เมตร โดยยอดขององค์พระธาตุได้บรรจุพระบรมสาริกธาตุ จากสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสงฆปริณายก
ในเรื่องของการจัดการเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ ที่วัดแห่งนี้ก็จัดให้มีได้อย่างครบครับครับ ไม่ว่าจะเป็น ทางลาด และห้องน้ำ เรียกได้ว่ามาเที่ยวที่นี้ไม่มีผิดหวังแน่นอนครับ