ไหว้พระรอบเมือง@เชียงใหม่
สถานที่ 1.วัดโลกโมฬี 2.วัดเชียงมั่น 3.วัดเจดีย์หลวง 4.วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร
เชียงใหม่ เมืองที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ และเต็มไปด้วยเรื่องราวของประวัติศาสตร์ ศิลปะ สถาปัตยกรรมที่มีความสวยงาม และน่าสนใจในแบบล้านนา Wheelwego ในวันนี้ เราตะเวนรอบเมืองเชียงใหม่เพื่อไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และชมความงดงามของสถาปัตยกรรมล้านนา กับวัดที่มีความสำคัญ ๆ ของเมืองเชียงใหม่กันครับ
วัดโลกโมฬี เป็นวัดที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่อย่างมากครับ มีอายุกว่า 500 ปี โดยภายในบริเวณวัดมีสิ่งที่น่าสนใจครับ
วิหารหลวงวัดโลกโมฬี เป็นวิหารไม้สักศิลปะแบบล้านนา มีความงดงามด้วยลายสลักพุทธประวัติ ที่ประดับตบแต่งไว้โดยรอบทั้งบนเพดานและต้นเสาภายในวิหาร ที่มีความประณีต ด้วยกระจกสีหลากสีสัน ที่ช่วยขับให้ความงดงามของวิหารแห่งนี้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานของ “พระพุทธสันติจิรบรมโลกนาถ” และได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้บนพระเมาลี ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาเป็นอย่างมากของคนเชียงใหม่ครับ
และอีกโบราณสถานที่สำคัญของวัดโลกโมฬีคือพระเจดีย์โลกโมฬีครับ เป็นเจดีย์ที่มีความเก่าแก่สร้างด้วยอิฐทรงปราสาทโดยมีมีประติมากรรมรูปเทวดาที่ประดับตบแต่งตามมุมของเจดีย์ จากหลักฐานทางเอกสารกล่าวไว้ว่าถูกสร้างขึ้นในรัชกาลพระเมืองเกศเกล้า เมื่อปี พ.ศ. 2070 มีรูปแบบเป็นเจดีย์ทรงปราสาทแบบล้านนา อันเป็นรูปแบบที่มีวิวัฒนาการต่อเนื่องมาแล้ว ตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 19 และมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของเจดีย์บางประการ ตามแบบซึ่งเป็นที่นิยมในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งคงเกิดขึ้นได้ทั้งจากความคิดสร้างสรรค์ของช่างพื้นเมือง และการรับเอาแบบอย่างจากแหล่งที่ให้แรงบันดาลใจในด้านศิลปะ
นอกจากวิหารไม้ที่มีความสวยงาม และเจดีย์ที่มีความยิ่งใหญ่ บริเวณภายในวัดโดยรอบยังมี รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม และรูปปั้นของพญาเกษเชษฐราฐ มหากษัตริย์แห่งล้านนา ประดิษฐานอยู่ภายในบริเวณวัดอีกด้วยครับ สำหรับวัดแห่งนี้
ผมสามารถปั่นรถชมความงดงามได้โดยรอบครับ หากแต่การจะเข้าไปภายในวิหารนั้น อาจจะมีข้อจำกัดอยู่บ้างครับ
วัดเชียงมั่น เป็นวัดที่มีความเก่าแก่ที่สุดในตัวเมืองเชียงใหม่ และถือเป็นวัดแห่งแรกในเขตกำแพงเมืองครับ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 1839 โดย พ่อขุนเม็งราย หลังจากที่พระองค์ได้สร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นแล้ว ก็ทรงยก ตำหนักเชียงมั่น เพื่อถวายให้สร้างเป็นพระอารามชื่อว่า วัดเชียงมั่น จากบริเวณด้านหน้าวัด เราจะพบกับวิหารหลวงซึ่งเป็นวิหารที่มีความงดงาม ถูกออกแบบและสร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบล้านนา โดยภายในมีจิตกรรมฝาผนังภาพเขียนสีทองบนผนังสีแดง ถ่ายทอดเรื่องราวทางพุทธประวัติที่มีความน่าสนใจครับ
ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญของเชียงใหม่ ได้แก่ พระเสตังคมณี หรือ พระแก้วขาว และพระศิลา ปางทรมานช้างนาฬาคีรี
นอกจากวิหารหลวงแล้วยังมีพระวิหารจตุรมุขครับซึ่งเป็นวิหารเดิมของวัด โดยภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญของเชียงใหม่ ได้แก่ พระเสตังคมณี หรือ พระแก้วขาว และพระศิลา ปางทรมานช้างนาฬาคีรี โดยพระแก้วขาวนั้นเป็นพระพุทธรูปประจำพระองค์ของพระนางจามเทวีแห่งแคว้นหริภุญชัย และเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนชาวเชียงใหม่ ตั้งแต่อดีตจนถึงในปัจจุบันครับ
อีกหนึ่งส่วนที่สำคัญครับ เจดีย์ช้างล้อม เป็นเจดีย์ประธาน สร้างตามแบบศิลปะล้านนา ตั้งอยู่ด้านหลังพระวิหารใหญ่ ฐานเจดีย์ประดับด้วยช้างปูนปั้นจำนวน 16 เชือก ตั้งอยู่บนฐานเขียงสี่เหลี่ยม ซ้อนลดหลั่นกัน 2 ชั้น บนฐานประดับปูนปั้นรูปช้างครึ่งตัวโดยรอบ 15 เชือก และประดับช้างประจำมุม ๆ ละ 1 เชือก ระหว่างช้างปูนปั้นแต่ละเชือก ประดับด้วยเสาลายเป็นภาพหน้าตัดของสถาปัตยกรรม ที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะสุโขทัย ด้านหน้ามีบันไดทางขึ้นสู่ซุ้มเรือนธาตุ ราวบันไดประดับด้วยนาคปูนปั้น ส่วนเรือนยอดเป็นเจดีย์ทรงระฆังสีทองอร่าม
สำหรับวัดเชียงมั่น ผมสามารถปั่นรถชมบริเวณได้โดยรอบครับ หากแต่จะมีข้อจำกัดในการเข้าถึงส่วนของวิหารต่าง ๆ เพราะเป็นขั้นบันได และสำหรับที่นี่จัดให้มีห้องน้ำสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุครับ
วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร หรือ วัดโชติการาม เป็นพระอารามหลวงเก่าแก่และมีความสำคัญมากของเชียงใหม่ครับ มีเจดีย์หลวง ซึ่งเป็นเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ และสูงที่สุดของภาคเหนือในยุคสมัยนั้นครับ จากบริเวณทางเข้าซ้ายมือเป็นที่ตั้งของเสาอินทขิล หรือ เสาหลักเมือง ซึ้งสร้างขึ้นเมื่อครั้งพ่อขุนเม็งรายมหาราชสร้างเมืองเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 1839 ประดิษฐานอยู่ในวิหารจตุรมุขทรงไทยหลังเล็ก ๆ เสาอินทขิลนี้สร้างด้วยไม้ซุงต้นใหญ่ ฝังอยู่ใต้ดินครับ และบริเวณด้านหน้าเป็นที่ตั้งของวิหารหลวง ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายครับว่าอยู่ในช่วงปิดปรับปรุงครับและในส่วนที่สำคัญที่สุดของวัดแห่งนี้ครับ
ที่ตั้งของเสาอินทขิล หรือ เสาหลักเมือง ซึ้งสร้างขึ้นเมื่อครั้งพ่อขุนเม็งรายมหาราชสร้างเมืองเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 1839 ประดิษฐานอยู่ในวิหารจตุรมุขทรงไทยหลังเล็ก ๆ
พระเจดีย์หลวง โดยพระเจดีย์หลวง เริ่มสร้างขึ้น เมื่อ พ.ศ. 1934 สมัยพญาแสนเมืองมา สมัยพญาติโลกราช และมีการบูรณะมาหลายสมัย สำหรับพระธาตุเจดีย์มีขนาดความกว้างด้านละ 60 เมตร เป็นองค์พระเจดีย์ที่มีความสำคัญองค์หนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ในปัจจุบันคงเหลือสภาพเพียงครึ่งองค์ จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ในสมัยมหาเทวี จิรประภา รัชกาลที่ 15 แห่งราชวงศ์มังราย โดยมีการสันนิษฐานว่าเจดีย์อาจมีความสูงถึง 80 เมตร ซึ่งทำให้เป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในภาคเหนือในช่วงเวลาดังกล่าว วัดเจดีย์หลวงสร้างอยู่กลางใจเมืองเชียงใหม่ โดยรูปแบบของเจดีย์นั้นเป็นแบบโลหะปราสาทของลังการูปลักษณ์ทรงเจดีย์แบบพุกาม ดัดแปลงซุ้มตรงสี่มุมของมหาเจดีย์ มีรูปปั้นช้างค้ำรายล้อมรอบองค์เจดีย์หลวงนั้นมี 28 เชือก การสร้างรูปปั้น ช้างนั้น เป็นการส่งเสริมกำลังเมืองในทางด้านไสยศาสตร์เพื่อให้เมืองมีความแข็งแรงยิ่งขึ้น ครับ
นอกจากพระเจดีย์หลวงแล้วภายในวัดแห่งนี้ยังมีส่วนที่สำคัญ และมีความน่าสนใจอีกหลายส่วนครับ ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณณ์วัดเจดีย์หลวง ซึ่งจัดแสดง ประวัติรวมถึงสิ่งของต่าง ๆ ที่มีค่าและมีความเกี่ยวข้องกับวัดครับ วิหารพระอาจาร์ยมั่น ภูริทัตโต เป็นวิหารไม้ที่มีความสวยงาม ในศิลปะสถาปัตยกรรมแบบล้านนาที่สมบูรณ์แบบ และมีความงดงามมากแห่งหนึ่งจนได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่น จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์เมื่อ พ.ศ.2532 ภายในมีบุษบกที่ประดิษฐานบรรจุอัฐิธาตุและฟันกรามของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต สร้างด้วยไม้สักลงรักปิดทอง มีรูปทรงเป็นแบบศิลปะสกุลช่างล้านนา รวมถึงหุ่นขี้ผึ้งขนาดเท่าองค์จริงของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าสักการะครับ
วิหารพระอาจาร์ยมั่น ภูริทัตโต เป็นวิหารไม้ที่มีความสวยงาม ในศิลปะสถาปัตยกรรมแบบล้านนาที่สมบูรณ์แบบ และมีความงดงามมากแห่งหนึ่งจนได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่น จากสมาคมสถาปนิกสยาม.
“ศาลหลักเมืองเชียงใหม่” เป็นมณฑปจตุรมุขวิหาร ศิลปะล้านนาประยุกต์ อุปมาถึงเขาสัตตบริภัณฑ์ ในเรื่องคติจักรวาล ประดิษฐานพระพุทธรูปทองสำริดปางรำพึงอยู่ภายในบุษบกเหนือเสาอินทขีล มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม
ในเรื่องของการจัดการสภาพแวดล้อมของที่นี่ทำได้ดีเชียวครับ สามารถปั่นรถ ชื่นชมความงดงามของวัดแห่งนี้ได้โดยรอบรวมถึงที่นี่ได้จัดให้มี ห้องน้ำ สำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังวัดครับ
วัดพระสิงห์ หรือมีชื่อเต็มว่า วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จากบริเวณทางเข้าด้านหน้าวัดพระสิงห์คำเราจะพบกับพระวิหารหลวง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2467 โดยสร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบล้านนา ซึ่งวิหารในปัจจุบันเป็นวิหารที่ถูกสร้างขึ้นใหม่เนื่องจากวิหารดั้งเดิมมีความทรุดโทรมเป็นอย่างมากโดยภายในเป็นที่ประดิษฐานพระศรีสรรเพชญ (หลวงพ่อโต) ซึ่งเป็นพระที่ชาวเชียงใหม่ให้ความนับถืออย่างมากครับ
ถัดจากวิหารหลวงเราจะพบกับพระวิหารลายคำ พระวิหารลายคำ เป็นพระวิหารที่สร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมล้านนา ที่มีความงดงาม ประดับด้วยลายตบแต่งปูนปั้นที่ปราณีต บรรจง ภายในเป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา โดยพระพุทธรูปเป็นศิลปะเชียงแสนรู้จักกันในชื่อ “เชียงแสนสิงห์หนึ่ง วัดพระสิงห์ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 700 โดยกษัตริย์ 3 พระองค์จากกรุงลังกา รายล้อมด้วยรูปปั้นของพระเกจิที่สำคัญ ๆ ของประเทศไทย 20 องค์ ซึ่งมีความสมจริง อย่างงดงามครับ
นอกเหนือจากวิหารและเจดีย์ยังมีอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ นั่นก็คือหอธรรม หรือหอไตร ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าวิหารหลวง หอธรรม เป็นอาคาร 2 ชั้นที่มีการตกแต่งชั้นล่างด้วยปูนปั้นรูปเทวดา ด้วยความงดงามแบบล้านนา หอธรรมแห่งนี้จึงจัดให้เป็นหอธรรมที่มีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งครับ
พระมหาเจดีย์ธาตุ หรือ พระธาตุหลวงเจดีย์ ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีนักษัตรปีมะโรง ที่ปัจจุบันได้รับการปิดทองจังโกมีความงดงามสีทองอร่าม ถือเป็นหนึ่งในเจดีย์ทรงระฆังที่เก่าแก่ที่สุดในอำเภอเมือง ฯ จังหวัดเชียงใหม่
การปั่นรถชมความงามของสถานที่แห่งนี้ สามารถปั่นชมได้โดยรอบครับ รวมถึงที่วัดแห่งนี้ได้จัดให้มีห้องน้ำสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุครับ